ประวัตินักบุญวาเลนไทน์ (St.Valentine)
ฉลองวันที่ 14 กุมภาพันธ

นักบุญวาเลนไทน์ทำให้จักรพรรดิที่โรมเกิดความสำนึก และผู้พิพากษาได้กลับใจมาเป็นคาทอลิก เพราะท่านนักบุญทำให้บุตรสาวของเขาหายจากตาบอด ท่านวาเลนไทน์บวชเป็นพระสงฆ์ที่กรุงโรม และได้เป็นพระสังฆราชในเวลาต่อมา ท่านได้ถูกจับโดยคำสั่งของจักรพรรดิโกลดิโอ ที่ 2 เพราะท่านขึ้นชื่อลือเด่นในทางบำเพ็ญฤทธิ์กุศลหลายประการ

ขั้นแรกจักรพรรดิทรงซักถามวาเลนไทน์ด้วยความมักรู้มักเห็น แต่ต่อมาทรงรู้สึกสนพระทัยในคำสอนของคริสตัง ที่สุดพระองค์ตรัสว่า "คำสอนของบุรุษผู้นี้ฟังแล้วจับใจจริงๆ" แต่ในขณะที่พระองค์ทรงเริ่มมีความเชื่อ ท่านผู้ว่าราชการกรุงโรมก็จัดให้ผู้พิพากษานายหนึ่งเข้ามาซักถามท่านวาเลนไทน์

ผู้พิพากษาคนนี้เยาะเย้ยท่านในเรื่องที่คริสตังชอบกล่าวว่า "พระคริสต์ทรงเป็นองค์ความสว่างของโลก" ลูกสาวของผู้พิพากษาคนนี้ตาบอด ท่านวาเลนไทน์ได้ทำอัศจรรย์ให้หาย อัสเตริอุส ผู้พิพากษาจึงกลับใจเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า เมื่อเห็นดังนั้น ท่านผู้ว่าราชการเกิดความอิจฉา และต้องการกำจัดท่านวาเลนไทน์ จึงจับท่านวาเลนไทน์ไปขังไว้ในคุกมืด แล้วใช้ไม้เป็นปุ่มเป็นตาเฆี่ยนท่านอย่างสาหัส

ที่สุดนำท่านไปตัดศีรษะ นักบุญวาเลนไทน์ เป็นองค์อุปถัมภ์ของชาวเมืองตารัสก็อง (ภาคใต้ของฝรั่งเศส) ธรรมเนียมเกี่ยวกับการส่งบัตรอวยพร ส่งความรักในวันวาเลนไทน์นั้น ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เคยมีเรื่องเล่าไว้ว่านกจะเริ่มจับคู่กันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ฉะนั้นเราจึงได้ส่งบัตรอวยพร และส่งความรักในวันดังกล่าว ซึ่งตรงกับวันฉลองศาสนนามของท่านนักบุญวาเลนไทน์ จึงทำให้ชื่อของท่านปรากฏขึ้นในวันแห่งความรักตามธรรมเนียมดังกล่าว