นักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี

องค์อุปถัมภ์ของผู้สิ้นใจอย่างโดดเดี่ยว

ระลึกถึงวันที่ 4 ตุลาคม

ฟรังซิส เกิดที่ประเทศอิตาลี เป็นบุตรชายพ่อค้าที่ร่ำรวย ขณะยังหนุ่ม เป็นคนชอบสนุกสนาน ไม่จริงจังกับชีวิต ครั้งหนึ่งท่านป่วยหนักและได้ยินพระเยซูเจ้า ตรัสเรียกท่าน ให้สละความสุขฝ่ายโลก แล้วติดตามพระองค์ ท่านจึงกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ โดยยึดพระวรสารที่ว่า "สิ่งที่ท่านได้ปฎิบัติ ต่อพี่น้อง แม้ที่ต่ำต้อยของเรา นั่นแหละเท่ากับได้ปฎิบัติต่อเรา" ท่านได้พยายามเจริญชีวิต ตามคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า โดยละความเห็นแก่ตัว และมอบตนเองแด่พระเจ้า เจริญชีวิตเรียบง่าย ช่วยเหลือคนจน จากนั้นท่านก็ได้สละทรัพย์สมบัติ อันเป็นมรดกทั้งหมด ต้องเที่ยวขอทานและทำงานรับใช้คนโรคเรื้อน

ต่อมามีผู้เลื่อมใสศรัทธา ทั้งชายหญิงได้มาขอเจริญชีวิตกับท่าน ท่านได้แนะนำสมาชิกเหล่านี้ ให้ยึดถือตามอุดมการณ์แห่งพระวรสาร ให้เป็นคนสุภาพถ่อมตน อ่อนหวาน ร่าเริง จริงใจ เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า กับธรรมชาติและกับเพื่อนมนุษย์ทุกคน ท่านเน้นสมาชิกต้องทำงานเลี้ยงชีพด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน และนำทรัพย์สินทั้งวัตถุ และจิตใจมารวมเป็นกองกลางเพื่อแบ่งปันกัน สมาชิกเหล่านี้ได้พัฒนาเป็นคณะนักพรต "ฟรังซิสกัน" และคณะนักพรตหญิง "คลารีส" และคณะฆราวาสฟรังซิสกัน
สัญญาณแห่งความรักของฟรังซิสต่อพระเยซูเจ้าคือ บังเกิดรอยแผลเป็นแห่งพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า บนร่างกายของท่านคือ ที่มือ ที่เท้า และที่สีข้าง ตลอดชีวิตของท่าน ท่านสวดภาวนาเมื่อใกล้สิ้นใจว่า "พระเจ้าข้า ลูกขอบพระคุณพระองค์ ที่ทรงโปรดให้ลูกมีส่วน ในพระมหาทรมานของพระองค์"

บทภาวนาของนักบุญฟรังซิส อัสซีซี
ข้าแต่พระบิดา ขอพระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือของพระองค์ เพื่อสร้างสันติ
- ที่ใดมีความเกลียดชัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก
- ที่ใดมีความเจ็บแค้น ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย
- ที่ใดมีความแตกแยก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสามัคคี
- ที่ใดมีความเท็จ ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความจริง
- ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความเชื่อ
- ที่ใดมีความสิ้นหวัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหวัง
- ที่ใดมีความมืด ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสว่าง
- ที่ใดมีความเศร้าโศก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความยินดีเบิกบานใจ
ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นผู้บรรเทา มากกว่าจะเป็นผู้รับการบรรเทา
- เห็นใจผู้อื่นมากกว่าจะรับความเห็นใจ
- รักผู้อื่นก่อน และมากกว่าที่จะให้คนอื่นรักข้าพเจ้า
- ผู้ที่ให้เท่านั้น จะได้รับความอิ่มเอิบยินดี
- ผู้ที่ลืมตนเองเท่านั้น จะพบตนเองในทางสันติ
- ผู้ที่ยกโทษให้เท่านั้น จะได้รับการอภัยโทษ
ดังนี้เมื่อเราตาย จะได้ไปสู่พระราชัย ของพระองค์ชั่วนิรันดร

ข้อมูลจากเวปไซด์บ้านจอมยุทธ