นักบุญมารีย์ ชาวมักดาลา องค์อุปถัมภ์คนบาปกลับใจ
|
มารีย์ ชาวมักดาลา เป็นน้องสาวของนักบุญลาซารัสและนักบุญมาร์ธา เราเรียกนักบุญองค์นี้ว่า "ผู้เป็นทุกข์ถึงบาป" นักบุญมารีย์เป็นชาวยิว แต่เธออยู่ที่เมืองมักดาลาทางเหนือของเมืองกาลิลี เธอจึงถือประเพณีและมีนิสัยใจคอแบบคนต่างศาสนา
นักบุญลูกาบันทึกว่าเธอเป็นคนบาปหนา และได้มีการขับไล่ปิศาจเจ็ดตนออกจากตัวเธอ เธออยู่ที่เชิงไม้กางเขนกับยอห์นและมารีย์ แม่ของยากอบและซาโลเม่ เวลาพระเยซูเจ้าถูกตรึงกางเขน และที่คูหาฝังพระศพพระเยซูเจ้าซึ่งว่างเปล่า
สิบสี่ปีหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า ชาวยิวจับนักบุญมารีย์ใส่เรือลำหนึ่ง ไม่มีใบหรือพาย พร้อมกับนักบุญลาซารัสและนักบุญมาร์ธา นักบุญแมกซิมินผู้โปรดศีลล้างบาปแก่เธอ นักบุญซิโอนิอัสผู้เกิดมาดวงตาบอด เซร่าผู้รับใช้เธอ และพระธาตุนักบุญอันนา มารดาของพระนางพรหมจารีมารีอา เขาทั้งหลายอยู่ในเรือที่ลอยไปตามกระแสน้ำในมหาสมุทร ในที่สุดเรือได้ไปเกยตื้นที่ฝั่งทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ที่ซึ่งนักบุญมารีย์ได้ใช้ชีวิตบั้นปลาย เป็นนักพรตอาศัยอยู่ในถ้ำเป็นที่รู้จักกันในนาม Sainte-Baume เทวดาได้ส่งศีลมหาสนิทให้เธอทุกวัน ซึ่งเป็นอาหารอย่างเดียวของเธอ เธอสิ้นใจอายุ 72 ปี ก่อนหมดลมหายใจ นักบุญมารีย์ได้เดินทางอย่างมหัศจรรย์ไปที่โบสถ์นักบุญแมกซิมิน และได้รับศีลเจิมคนป่วยที่นั่น
นักบุญมารีย์ชาวมักดาลา เป็นคนบาปเมื่อเธอเห็นพระเยซูเจ้าเป็นครั้งแรก เธอเป็นคนสวยและหยิ่งผยอง แต่หลังจากเธอได้พบพระองค์ เธอเป็นทุกข์เสียใจที่ได้ดำรงชีวิตในความบาป เมื่อพระเยซูเจ้ารับประทานอาหารเย็นที่บ้านเศรษฐีชื่อไซมอน มารีย์ได้มาร้องไห้ล้างเท้าพระองค์ด้วยน้ำตาของเธอ เช็ดเท้าพระองค์ด้วยผมยาวสวยงามของเธอ และเจิมเท้าพระองค์ด้วยน้ำหอมราคาแพง หลายคนแปลกใจทำไมพระเยซูเจ้าปล่อยให้คนบาปแตะต้องพระองค์ แต่พระองค์ทรงมองเห็นดวงใจของมารีย์และตรัสว่า "บาปต่างๆ ของเจ้าได้รับการอภัย เพราะเจ้ามีความรักท่วมท้น" แล้วพระองค์ตรัสกับเธอด้วยพระเมตตา "ความเชื่อได้นำความรอดมาให้เจ้า จงไปอย่างมีสันติสุข" จากนั้นเป็นต้นไปพร้อมกับสตรีศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เธอรับใช้พระเยซูเจ้าและอัครสาวกของพระองค์อย่างสุภาพถ่อมตน เมื่อพระองค์ถูกตรึงกางเขนเธอก็อยู่ที่เชิงไม้กางเขน ไม่กลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับเธอ เธอคิดแต่เพียงพระมหาทรมานของพระองค์เท่านั้น ไม่ต้องสงสัยทำไมพระองค์ตรัสกับเธอ "เจ้ามีความรักท่วมท้น"
หลังจากฝังพระศพพระเยซูเจ้าในคูหา ตอนเช้าวันปาสกา มารีย์ได้เอาน้ำหอมไปชโลมพระศพ แต่หาพระศพไม่เจอ เธอร้องไห้ และมองเห็นชายคนหนึ่งผู้ซึ่งเธอคิดว่าเป็นคนสวน เธอถามเขาว่า รู้ไหมใครได้เอาพระกายของพระอาจารย์ที่เธอรักไปไว้ไหน แต่ชายนั้นพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี: "มารีย์ นี่คือพระเยซูผู้ซึ่งได้กลับเป็นขึ้นมาจากความตาย" พระองค์ได้ประจักษ์ให้นักบุญมารีย์ชาวมักดาลาผู้เป็นทุกข์ถึงบาปเห็นเป็นคนแรก
ให้เราภาวนา
ข้าแต่พระเป็นเจ้า โดยคำเสนอวิงวอนของนักบุญมารีย์ชาวมักดาลา โปรดประทานพระหรรษทานให้คนบาปทั้งหลาย ผู้ซึ่งเป็นทุกข์เสียใจที่ได้ทำบาป ตั้งใจแน่วแน่ที่จะทิ้งบาปทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง และใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อพระเยซูคริสตเจ้าแต่ผู้เดียว โดยรำพึงถึงพระมหาทรมาน และการสิ้นพระชนม์อันขมขื่นของพระองค์ทุกวันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และรับพระกายและพระโลหิตของพระองค์ทุกครั้งที่ฟังมิสซา แล้ววันหนึ่งเขาทั้งหลายจะได้รับชีวิตนิรันดร และสรรเสริญพระองค์ชั่วนิรันดรในเมืองสวรรค์ อาแมน