แม่พระทรงประจักษ์ที่ ลูร์ด 18 ครั้ง

ค.ศ.1858 แม่พระทรงประจักษ์ที่ ลูร์ด

การประจักษ์ที่ลูร์ดแก่ ด.ญ. แบร์นาแด๊ต ซูบิรูส์ เมื่อ ค.ศ. 1858 เป็นการประจักษ์ที่รู้จักกันแพร่หลายมาก…
ขณะนั้นลูร์ดเป็นเพียงตำบลหนึ่ง มีประชาชน 3,826 คน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส อยู่ท่ามกลางเทือกเขาพีรินิล เป็นเขาสูงคั่นระหว่าง ฝรั่งเศสกับสเปน

ก่อนหน้านี้ 4 ปี คือ ในวันที่ 8 ธันวาคม 1854 สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ทรงประกาศอัตถ์ความเชื่อเรื่องแม่พระทรงปฏิสนธินิรมล คือ แม่พระไม่มีบาปกำเนิด… การประจักษ์ที่ลูร์ดเท่ากับแม่พระเองเสด็จมายืนยืนอัตถ์ความจริงข้อนี้

ในปี 1858 ครอบครัวของแบร์นาแด๊ตกำลังตกอับยากจน จนกระทั่งไม่มีที่อยู่ ต้องไปอาศัยอยู่ชั้นล่างของบ้านนายอังเดรซายูส ผู้เป็นญาติ บิดาของแบร์นาแด๊ต ชื่อ ฟรังซัว ซูบิรูส์ มารดาชื่อ หลุยซา ขณะนั้นแบร์นาแด๊ตอายุ 14 ปี มีน้องชื่อ ตัวแน็ต มารี กับ ยัง มารี และ ยุสแต็ง การประจักษ์ครั้งที่ 1 ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1858 แบร์นาแด๊ต กับตัวแน็ต น้องสาวและเพื่อนชื่อ ยาน อะบาดี ชวนกันไปเก็บฟืนมาหุงข้าว…เมื่อมาถึงใกล้ก้อนหินใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "มัสซาเบียล" ฐานของหินนี้เว้าเข้าไปเป็นรูปถ้ำ กว้างประมาณ 12 เมตร ลึกประมาณ 8 เมตร ทางด้านขวาของถ้ำสูงจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร รอบๆ ถ้ำมีเถากุหลาบป่าขึ้นอยู่ประปราย ขณะนั้นหอนาฬิกาที่วัดบอกเวลาเที่ยงพอดี และมหัศจรรย์ก็ได้เริ่มขึ้น

แบร์นาแด๊ตบอกว่า "เห็นหญิงสาวขาว (ทั้งตัว) คนหนึ่ง เธอก้มศีรษะเล็กน้อยทักทายฉัน แบมือเหมือนแม่พระในรูปทั่วไป ที่แขนขวามีลูกประคำห้อยอยู่ สตรีนั้นสวมเสื้อขาวยาวลงมาปกคลุมเท้า เสื้อนั้นมีที่รูดปิดคอ และมีปลายเชือกสีขาวห้อยอยู่ ผ้าสีขาวที่คลุมศีรษะนั้น ปกบ่าและแขน ฉันเห็นดอกกุหลาบสีเหลือง 2 ดอก บนเท้าทั้งสองของเธอ รัดประคดของเสื้อสีฟ้า ห้อยต่ำลงมาเลยหัวเข่า ส่วนลูกประคำนั้นสายสีเหลือง เม็ดสีขาวขนาดโต และห่างกัน หญิงสาวผู้นั้นท่าทางว่องไว มีแสงอยู่รอบข้าง
" เมื่อฉันสวดลูกประคำจบ เธอก็ยิ้มลาฉัน แล้วถอยหลังหายวับเข้าไปในโพรง…"

การประจักษ์ครั้งที่ 2 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันอาทิตย์ เมื่อเลิกพิธีมิสซาเวลา 13.00 น. แล้ว เพื่อนๆ ของแบร์นาแด๊ตติดตามเธอไปถึงบ้าน อ้อนวอนมารดาขออนุญาตให้แบร์นาแด๊ตไปที่ถ้ำมัสซาเบียลอีก… เมื่อมาถึงแล้วแบร์นาแด๊ตให้ทุกคนคุกเข่าลงสวดลูกประคำ สักครู่หนึ่งเธอก็ร้องอย่างตื่นเต้นว่า "แน่ะ มาแล้วมีแสงสว่าง" เพื่อนๆ ยื่นขวดน้ำเสกให้เธอพลางพูดเสียงสั่นๆ ว่า "เร็ว! สาดน้ำเสกซี" แบร์นาแด๊ตหันมาพูดกับเพื่อนๆ ว่า "เธอไม่ยักโกรธ กลับก้มศีรษะรับ และยิ้มให้พวกเรา"

การประจักษ์ครั้งที่ 3 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1858 แม่พระบอกกับแบร์นาแด๊ตว่า "หนูจะกรุณามาที่นี่สัก 15 วัน จะได้ไหมคะ?" "ได้ค่ะ หนูขอสัญญา ถ้าคุณพ่อคุณแม่อนุญาต" แล้วสตรีงามพูดต่อไปว่า "ฉันไม่รับรองว่าหนูจะมีความสุขในโลกนี้ แต่โลกหน้า แน่นอน" แล้วสตรีผู้นั้นลอยขึ้นสูงหน่อย แล้วหายไป

การประจักษ์ครั้งที่ 4 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ แม่พระขอบคุณแบร์นาแด๊ตที่มาพบอีก แล้วบอกว่า มีความลับจะบอกในภายหน้า

การประจักษ์ครั้งที่ 5 วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 1858 แม่พระสอนแบร์นาแด๊ตให้สวดภาวนาบทหนึ่ง ทีละคำๆ บทภาวนานั้นสำหรับเธอสวดคนเดียวตลอดชีวิต และเธอก็สวดบทนั้นทุกครั้งที่แม่พระประจักษ์มา มีผู้พยายามใช้กลอุบายต่างๆ หลอกถามเธอ แต่เธอมิได้บอกใครเลยจนตลอดชีวิต

การประจักษ์ครั้งที่ 6 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1858 มีผู้คนมารอดูมากมาย แบร์นาแด๊ตมาตามเวลากำหนดกับมารดาและน้า ดร. โดชูส แพทย์ประจำตำบลลูร์ดร่วมอยู่ด้วย เขามาเพื่อจะคอยจับผิด มากกว่ามาด้วยใจศรัทธาเลื่อมใส แม่พระบอกแบร์นาแด๊ตว่า "หนูจงสวดให้คนบาปที่น่าสงสาร สวดให้โลกที่กำลังยุ่งยากอลวนอยู่"

การประจักษ์ครั้งที่ 7 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1858 การประจักษ์ครั้งนี้กินเวลาครึ่งชั่วโมง แม่พระบอกความลับกับเธอ 3 ข้อ ซึ่ง เธอจะบอกกับใครมิได้เลย และเธอก็ได้รักษาความลับนั้นไว้ตลอดชีวิต

การประจักษ์ครั้งที่ 8 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1858 ผู้ที่อยู่ใกล้เธอขณะที่กำลังเข้าฌาน ได้ยินเสียงที่หลุดออกจากริมฝีปากที่สั่นระริกว่า "ใช้โทษบาป! ใช้โทษบาป! ใช้โทษบาป!"

การประจักษ์ครั้งที่ 9 วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1858 แม่พระบอกแบร์นาแด๊ตให้ไปดื่มน้ำและล้างหน้าที่น้ำพุ แบร์นาแด๊ตคุ้ยดินขึ้น มีน้ำขึ้นมาแต่ขุ่น น้ำไหลขึ้นมามากทุกที (ปัจจุบันกลายเป็นน้ำพุที่ไม่ขาดสายและสวยงามมาก)

การประจักษ์ครั้งที่ 10 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1858 แม่พระสั่งแบร์นาแด๊ตให้ไปบอกพระสงฆ์ให้สร้างวัดเล็กๆ ที่นี่หลังหนึ่ง

การประจักษ์ครั้งที่ 11 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1858 แบร์นาแด๊ตถามชื่อของสตรีงาม แต่แม่พระเพียงแต่ยิ้มๆ เท่านั้น ไม่ตอบว่ากระไร

การประจักษ์ครั้งที่ 12 วันที่ 1 มีนาคม 1858 ตั้งแต่ 7.00 น. บิดามารดาของเธอก็ไปพร้อมกันด้วย แม่พระสั่งให้แบร์นาแด๊ตใช้เฉพาะลูกประคำของตน

การประจักษ์ครั้งที่ 13 วันที่ 2 มีนาคม 1858 แม่พระสั่งให้แบร์นาแด๊ตไปหาคุณพ่อเจ้าวัด บอกกับท่านว่า "อยากให้ผู้คนตั้งขบวนแห่มาที่ถ้ำ" แต่คุณพ่อเจ้าวัดกำลังหัวเสีย ตอบว่า "ดีแล้ว ถ้าเธอ (สตรีงาม) ไม่ยอมบอกชื่อ เจ้าก็เป็นคนโกหก…"

การประจักษ์ครั้งที่ 14 วันที่ 3 มีนาคม 1858 แม่พระย้ำเรื่องการสร้างวัด แบร์นาแด๊ตบอกว่าคุณพ่อเจ้าวัดต้องการให้พิสูจน์ว่า ถ้าเป็นแม่พระจริง ขอให้ทำอัศจรรย์ให้ต้นกุหลาบป่าที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ นั้น ออกดอก… แม่พระเพียงแต่ยิ้ม…เป็นการสอนชาวเราว่า มหัศจรรย์นั้น พระเป็นเจ้าจะทรงกระทำตามที่ทรงเห็นสมควรเท่านั้น มิใช่ทำตามคำท้าทายของใครๆ

การประจักษ์ครั้งที่ 15 วันที่ 14 มีนาคม 1858 เช้าวันนั้นมีผู้คนมาประมาณ 8,000 คน แต่สิบตำรวจอังกลาขี่ม้าตรวจการณ์คะเนว่า คงมีอย่างน้อยสัก 20,000 คน…วันนั้นหลังจากประจักษ์แล้วแบร์นาแด๊ตกลับไปเตือนคุณพ่อเจ้าวัดถึงเรื่องที่สตรีงามบอก แต่คุณพ่อเจ้าวัดย้ำว่า "ให้สตรีงามของเจ้าบอกชื่อมาซิ ถ้าฉันรู้ว่าเป็นแม่พระ ฉันจะทำทุกอย่างที่แม่พระต้องการ"

การประจักษ์ครั้งที่ 16 วันที่ 25 มีนาคม 1858 การประจักษ์ครั้งนี้สำคัญมาก แบร์นาแด๊ตวิงวอนให้สตรีงามนั้นบอกชื่อของตน "คุณขา กรุณาบอกหนูหน่อยเถอะค่ะ คุณคือใคร?" …ต่อคำถามอันพากเพียรและเต็มไปด้วยความไว้วางใจเช่นนี้เป็นครั้งที่ 3 สตรีผู้นั้น ซึ่งเคยพนมมืออยู่เสมอ บัดนี้ค่อยๆ กางแขนออก แบมือปล่อยแขนต่ำลงมาทั้ง 2 ข้าง (แบบแม่พระในเหรียญมหัศจรรย์) พลางกล่าวเป็นภาษาท้องถิ่นของชาวลูร์ดว่า "ฉันคือการปฏิสนธินิรมล" พลางยิ้มให้แบร์นาแด๊ตอีกครั้งหนึ่ง แล้วหายไปทั้งๆ ที่ยังยิ้มอยู่..แบร์นาแด๊ตกลับไปหาคุณพ่อเจ้าวัดกล่าวว่า "สตรีผู้นั้นพึ่งบอกหนูว่า ฉันคือการปฏิสนธินิรมล" คุณพ่อเจ้าวัดถามต่อไปว่า "แล้วเจ้ารู้ไหมว่า แปลว่าอะไร?" "หนูไม่ทราบค่ะคุณพ่อ" หนูท่องมาตลอดทางตั้งแต่ถ้ำมาถึงที่นี่ ว่า "ฉันคือการปฏิสนธินิรมล"

การประจักษ์ครั้งที่ 17 วันที่ 7 เมษายน 1858 แม่พระยิ้มอย่างอ่อนหวานกับเธอภายในโพรงที่ตั้งรูปแม่พระ เธอได้เห็นภาพประจักษ์เช่นนั้นนานประมาณ 45 นาที

การประจักษ์ครั้งที่ 18 หรือครั้งสุดท้าย วันที่ 16 กรกฎาคม 1858 แม่พระทรงประจักษ์มานานประมาณ 15 นาที แบร์นาแด๊ตเล่าให้ฟังว่า "แม่พระประจักษ์มาให้เห็น ณ ที่เดิม โดยไม่พูดอะไร…หนูไม่เคยเห็นเธองามเหมือนวันนั้นเลย"

หลังจากนั้นแบร์นาแด๊ตก็มิได้พบแม่พระอีก..พระศาสนจักรเริ่มดำเนินการสอบสวนจนกระทั่ง 18 มกราคม 1862 พระสังฆราชแห่งลูร์ดได้ประกาศเป็นทางการรับรองว่า เป็นแม่พระจริงที่ได้ประจักษ์มาที่ถ้ำมัสซาเบียล แล้วลงมือสร้างพระวิหารขึ้นจนสำเร็จ

ส่วนแบร์นาแด๊ตได้ตัดสินใจเข้าบวชเป็นนางชีที่เนอแวร์ส เดือนกรกฎาคม ปี 1866 เธอพยายามทำทุกอย่างตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า และที่สุดได้มอบดวงวิญญาณบริสุทธิ์คืนแด่พระ ณ วันที่ 6 เมษายน 1879 ขณะอายุ 39 ปีเศษ

ต่อมาสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ทรงประกาศชื่อแบร์นาแด๊ต ซูบิรูส์ ในสารบบนักบุญ วันที่ 8 ธันวาคม 1933 ทุกวันนี้ลูร์ดเป็นปูชนียสถานแม่พระที่ใครๆ ก็รู้จักทั่วโลก และมีผู้จาริกแสวงบุญมาที่นี่ไม่ขาดสายเลย

ข้าแต่พระแม่ผู้ปฏิสนธินิรมลแห่งลูร์ด โปรดเสนอวิงวอนเทอญ
OUR LADY OF LOURDES

ข้อมูลจากเวปไซด์สังฆมณฑลนครราชสีมา