นักบุญ อักแนส พรหมจารี และมรณสักขี
ระลึกถึงวันที่ 21 มกราคม

อักแนสในภาษาลาตินแปลว่า"ลูกแกะ"ภาษากรีกแปลว่า"บริสุทธิ์" เธอได้ยินพูดถึงเรื่องของพระเยซูเจ้า ภายหลังได้สมัครรับศีลล้างบาปเป็นคริสตังและถวายตัวเองตลอดชีวิต

นักบุญอักเนส เป็นหญิงชาวโรมัน อายุเพียงสิบสามปีเธอได้เป็นมรณะสักขียืนยันความเชี่อ เธอได้สัญญากับพระเป็นเจ้า เธอจะรักษาความบริสุทธิ์ของเธอให้ปราศจากมลทิน เธอรักพระองค์สิ้นสุดดวงใจ สิ้นสุดวิญญาณ และสิ้นสุดกำลัง เธอเกลียดบาปยิ่งกว่าความตาย

เนื่องจากเธอเป็นคนสวยงามมาก ชายหนุ่มหลายคนปรารถนาอยากแต่งงานกับเธอ แต่เธอพูดเสมอว่า: "พระเยซูคริสตเจ้าคนเดียวเท่านั้นเป็นคู่ครองของฉัน" เมื่อแอกเนสอายุได้12ปี เธอปฎิเสธไม่ยอมแต่งงานกับโปรคอปลูกชายข้าหลวงซึ่งเป็นคนต่างศาสนา เขาโกรธมากเมื่อเธอปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา และได้พยายามเอาชนะใจเธอด้วยการให้ของขวัญราคาแพงและคำมั่นสัญญาต่างๆ แต่หญิงสาวหน้าตาน่ารักมีเสน่ห์รักษาคำพูดของเธอ: "ฉันได้ให้คำมั่นสัญญากับพระเป็นเจ้าผู้สร้างจักรวาล พระองค์ทรงพระฤทธานุภาพยิ่งกว่าดวงอาทิตย์และดวงดาวทั้งหมดในท้องฟ้า และพระองค์ได้ตรัสกับฉันว่า พระองค์จะไม่ทอดทิ้งฉันเป็นอันขาด" ด้วยความโมโหฉุนเฉียว โปรคอปได้กล่าวหาเธอเป็นคริสตชนและจับเธอส่งให้ข้าหลวงผู้เป็นบิดาของเขาเอง ข้าหลวงได้สัญญาจะให้ของขวัญประเสริฐเลอเลิศต่างๆแก่เธอ ถ้าเธอเพียงแต่ปฏิเสธพระเป็นเจ้า แต่เธอไม่สามารถทำตามที่เขาขอร้อง เขาก็พยายามเปลี่ยนใจเธอโดยสั่งทหารล่ามโซ่เธอ แต่ใบหน้าอันงดงามของเธอฉายแสงแห่งความยินดี ขั้นต่อไปเขาได้ส่งเธอไปเข้าซ่องโสเภณี แต่เทวดาได้ปกป้องคุ้มครองเธอให้พ้นภัยอันตราย ต่อมาเธอถูกนำไปยืนอยู่ต่อหน้ารูปปั้นพระในกรุงโรมเพื่อถวายกำยาน แต่เธอกลับชูมือขึ้นถวายนมัสการพระเยซูคริสตเจ้าและทำเครื่องหมายกางเขน พวกทหารได้จับเธอเปลื้องเสื้อผ้า ให้เธอยืนอยู่บนถนนเพื่อประจาน ขณะที่ประชาชนเมินหน้าหนีจากร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ ปรากฎว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งบังอาจมองเธอด้วยความคิดชั่ว ทันใดนั้นเกิดฟ้าแลบฟาดลงมา ทำให้ชายผู้นั้นตาบอดทันที ในที่สุดเธอถูกตัดสินประหารชีวิต แม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่เชื่อถือพระเป็นเจ้าได้ร้องไห้ เห็นหญิงสาวหน้าตาสวยงามมากเดินไปสู่หลักประหาร แน่นอน เธอมีความสุขเหลือล้นเหมือนเจ้าสาวในวันแต่งงาน หลายๆ คนได้ขอร้องเธอรักษาชีวิตไว้ เธอไม่รับฟังและพูดว่า: "ถ้าฉันพยายามเอาใจท่านทั้งหลาย ฉันก็ทำเคืองพระทัยคู่ครองของฉัน พระองค์ทรงเลือกฉันก่อน และฉันเป็นของพระองค์" อักแนสถูกนำไปที่ประหาร โดยถูกสั่งให้เผาทั้งเป็น แต่ไฟมิได้ทำให้เธอได้รับอันตรายแม้แต่น้อย เขาจึงสั่งให้ตัดศีรษะของเธอ เธอสวดภาวนาและก้มศีรษะให้เพชฌฆาตฟันคอเธอ อักแนส เป็นเด็กหญิงที่ยอมตายเพื่อยืนยันความเชื่อ ความรักพระเป็นเจ้าและความปรารถนารักษาความบริสุทธิ์ พระศาสนจักรฉลองนักบุญอักเนส วันที่ 21 มกราคม

การฉลองการเป็นมรณสักขีของนักบุญ อักแนส ที่นักบุญ อัมโบรซีโอได้กล่าวสรรเสริญยกย่องนั้น ไม่ใช่ว่าจะทำการฉลองกันเฉพาะในแวดวงของพระศาสนจักรโรมันเท่านั้น แต่ว่าทั่วทั่งพระศาสนจักรได้ทำการฉลองท่านด้วย

ในบทก่อนอนุโมทนาคุณในมิสซาสำหรับนักบุญมรณสักขีองค์นี้ ได้กล่าวถึงท่านนักบุญไว้ดังนี้ “ข้าแต่พระบิดาเจ้า นักบุญมรณสักขีอักแนสได้เลียนแบบพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระองค์ ซึ่งเป็นการถวายเกียรติแด่พระนามของพระองค์ และเป็นพยานถึงสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ ด้วยการหลั่งเลือดของตน พระองค์ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์อำนาจ และฤทธิ์กำลังของการเป็นมรณสักขีแก่ผู้ที่ไม่มีทางต่อสู้ ทั้งนี้โดยอาศัยพระคริสตเจ้า พระสวามีของข้าพเจ้าทั้งหลาย”

การเคารพให้เกียรตินักบุญองค์นี้ ได้เริ่มแพร่หลายแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ทั้งนี้เพราะท่านได้เป็นมรณสักขีตั้งแต่อายุยังเด็กเหลือเกิน คือเมื่อมีอายุได้ 12 ขวบเท่านั้น และในสมัยที่คริสตศาสนาทั้งที่กรุงโรม และที่กรุงคาร์เทจ (ตอนเหนือของอาฟริกา) กำลังอยู่ในสภาพที่ตกต่ำมาก เพราะการเบียดเบียน

นามชื่อของนักบุญนี้ “อักแนส” (Agnella) ก็มีกลิ่นหอมของพระคัมภีร์ นั่นก็คือ เธอได้รับชัยชนะ เพราะพระโลหิตขององค์ชุมพาน้อย (Agnellus) และได้เข้าสู่งานวิวาห์มงคลของพระองค์

คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ขอให้พระวาจาของพระที่เราฟังนั้น จงช่วยบันดาลให้ความเชื่อในตัวเราเข้มแข็งยิ่งๆขึ้น
2. ในบูชามิสซาให้เราถวายตัวเราเองพร้อมๆ กับพระเยซูคริสตเจ้าแด่พระบิดาเจ้าในความรัก
3. ข้าแต่พระสวามีเจ้าโปรดช่วยบรรดาเด็กสาวทั้งหลาย ให้พวกเขาสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของตน
4. ขอให้บรรดาเด็กสาวได้รู้จักป้องกันความบริสุทธิ์ของตนเองด้วยพลังที่เข้มแข็ง เลียนแบบท่านนักบุญ