นักบุญยากอบ องค์ใหญ่ อัครสาวกของพระเยซูคริสตเจ้า

นักบุญองค์อุปถัมภ์ช่างทำหมวก ผู้ป่วยโรคไขข้อ ผู้ใช้แรงกาย ผู้แสวงบุญ

 

นักบุญยากอบเป็นบุตรของเศเบดีและนางสะโลเม ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์ชุดแรกสี่คน ที่พระเยซูทรงเรียก

" ขณะที่ทรงดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพี่น้องสองคน คือซีโมน ที่เรียกว่าเปโตรกับอันดรูว์น้องชายกำลังทอดแห เขาเป็นชาวประมง พระองค์ตรัสสั่งว่า “จงตามเรามาเถิด เราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์” เปโตรกับอันดรูว์ก็ทิ้งแหไว้ แล้วตามพระองค์ไปทันที
เมื่อทรงดำเนินไปจากที่นั่น พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพี่น้องอีกสองคนคือ ยากอบบุตรของเศเบดีและยอห์นน้องชาย กำลังซ่อมแหอยู่ในเรือกับเศเบดีผู้บิดา พระองค์ทรงเรียกเขา ทันใดนั้น เขาก็ทิ้งเรือและบิดา แล้วตามพระองค์ไป" (มธ 4:18-22)

ที่เรียกว่า "องค์ใหญ่" เพราะท่านเป็นอัครสาวกก่อนนักบุญยากอบ อัครสาวกอีกองค์ ซึ่งเป็นบุตรของนางมารีย์

ในหมู่อัครสาวกด้วยกัน ท่านก็เป็นคนที่มีความสำคัญคนหนึ่ง ชื่อท่านจะปรากฏในพระวรสารหลายแห่ง ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์ เช่น เมื่อพระเยซูเจ้าได้ทำให้บุตรสาวของไยรัสกลับเป็นขึ้นมา พระองค์ทรงอนุญาต เปโตร, ยอห์น และยากอบ เท่านั้น ที่อยู่ในเหตุการณ์มหัศจรรย์นั้น (ลก 8 :49-50) หรือขณะที่พระองค์ทรงรักษาคนถูกปิศาจสิง ท่านก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย (มธ 17:14-21 , ลก 9: 37-43) เป็นต้น

มีเหตุการณ์ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นบนภูเขาเพื่อสวดภาวนา พระองค์ทรงตั้งพระทัยให้เปโตร, ยอห์น และยากอบ ไปกับพระองค์ด้วย และบนภูเขาลูกนี้พวกเขาได้รับพระพรพิเศษ เป็นสักขีพยาน แลเห็นสิ่งที่ไม่มีใครได้เห็น พระเยซูเจ้าได้จำแลงพระกาย ทรงสนทนากับโมเสส และเอลียาห์ ในขณะที่พระสุรเสียงของพระเป็นเจ้าดังก้องกังวาลจากก้อนเมฆในท้องฟ้า (มธ17:1-8,ลก9:28-36),

 

ยากอบต้องเป็นพระสหายใกล้ชิดสนิทกับองค์พระเยซูเจ้าเป็นพิเศษ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งท่านและน้องชาย (จอห์น) ได้รู้สึกว่าตนมีสิทธิที่จะไปหาพระเยซูเจ้า และขอพระองค์ประทานอะไรก็ได้ที่เขาทั้งสองต้องการ โดยความรักอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ เพราะท่านทั้งสองได้เข้ามาทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าทั้งสองปรารถนาให้พระองค์ทรงกระทำตามที่ข้าพเจ้าจะขอนี้” พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านปรารถนาให้เราทำสิ่งใด” ทั้งสองทูลตอบว่า “ขอโปรดให้ข้าพเจ้าคนหนึ่งนั่งข้างขวา อีกคนหนึ่งนั่งข้างซ้ายของพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์เถิด” พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “ท่านไม่รู้ว่ากำลังขออะไร ท่านดื่มถ้วยซึ่งเราจะดื่มได้ไหม หรือรับการล้างที่เราจะรับได้หรือไม่” ทั้งสองทูลว่า “ได้ พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้วยที่เราจะดื่มนั้น ท่านจะได้ดื่ม และการล้างที่เราจะรับนั้น ท่านก็จะได้รับ แต่การที่จะนั่งข้างขวาหรือข้างซ้ายของเรานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะให้ แต่สงวนไว้สำหรับผู้ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้” (มก 10:35-40 บุตรของเศเบดีขออภิสิทธิ์ )

เมื่อได้ยินคำขอเช่นนั้น อัครสาวกอื่นๆอีกสิบคนรู้สึกโกรธยากอบและยอห์น แต่พระเยซูเจ้าทรงใช้โอกาสนั้น ประทานคำสั่งสอนแก่เขาทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายย่อมรู้ว่า คนต่างชาติที่คิดว่าตนเป็นหัวหน้าย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่น และผู้เป็นใหญ่ย่อมใช้อำนาจบังคับ แต่ท่านทั้งหลายไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นใหญ่จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น
และผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” ( มก 10:41-45 ผู้นำต้องรับใช้ผู้อื่น )

ถึงแม้พวกเขามีข้อผิดพลาดเหล่านี้ พระเยซูเจ้ายังทรงเลือก เปโตร จอห์น และ ยากอบ เป็นเพื่อนของพระองค์ ขณะสวดภาวนาในสวนเกธเซมานีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะถูกจับกุม พระเยซูเจ้าคงจะต้องเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่อัครสาวกทั้งสามคนนอนหลับ ในขณะ ที่พระองค์เข้าตรีทูตในเย็นวันนั้น

ยากอบได้ดื่มจากถ้วยซึ่งพระเยซูเจ้าได้ทรงดื่ม ไม่นานหลังจากพระองค์ได้กลับคืนชีพ กิจการอัครสาวก 12:1 บอกเราว่า ท่านเป็นหนึ่งในมรณะสักขีองค์แรกของพระศาสนจักร เสียชีวิตขณะอายุ 44 ปี โดยพระเจ้าเฮรอด อะกริปปาที่หนึ่ง ได้ประหารชีวิตท่านด้วยดาบ ในสมัยแรกเริ่มเบียดเบียนพระ ศาสนจักร มีคนเล่าว่าชายที่จับกุมท่านได้กลับใจหลังจากฟังคำเทศนาของเขาในระหว่างการดำเนินคดี และถูกประหารชีวิตพร้อมกับเขา

ท่านเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ช่างทำหมวก ผู้ป่วยโรคไขข้อ ผู้ใช้แรงกาย ผู้แสวงบุญ

บทวิงวอนนักบุญเจมส์ องค์ใหญ่
นักบุญเจมส์ โปรดภาวนาสำหรับเรา
เราจะได้ยินดีและเต็มใจสละทุกสิ่งเพื่อติดตามพระเยซูคริสตเจ้า
โปรดช่วยเรา เหมือนอย่างท่าน เป็นเพื่อนใกล้ชิดสนิทกับพระองค์

อาแมน