นักบุญมารีอา กอร์เรตตี ( 1890 - 1902 )
พรหมจารีและมรณสักขี

ระลึกถึงวันที่ 6 กรกฏาคม

เด็กหญิงน้อยๆ อายุเพียง 12 ขวบ ได้ถูกแทงตายด้วยเหล็กแหลม เธอเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ

มารีอา กอร์เรตตี้ (St. Maria Gorretti) เธอเกิดในปี 1890 ที่แอนโกนาประเทศอิตาลี เป็นบุตรคนที่สามในจำนวนลูกทั้งหมด 7 คนของชาวนายากจนคู่หนึ่ง เธอไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เพราะเธอต้องทำงานในทุ่งนาหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ถึงแม้เธอจำต้องเสียสละหลายสิ่งในชีวิตประจำวัน ทุกคนเห็นเธอมีความสุข สนุกสนาน ร่าเริงดี

พ่อของเธอได้สิ้นใจด้วยโรคมาเลเรียเมื่อเธอมีอายุ 9 ขวบ แม่ของเธอจำเป็นต้องดูแลลูกๆในทุ่งนา มารีอาจึงได้รับมอบหมายทำหน้าที่เป็นแม่ครัวและแม่บ้านด้วย ในสมัยนั้นเด็กๆรับศีลมหาสนิทไม่ได้จนกว่าพวกเขาจะมีอายุครบ 12 ปี มารีอามีความศรัทธาต่อศีลศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างเหลือล้น จนพระสงฆ์เจ้าวัดได้อนุญาตเธอรับศีลมหาสนิทครั้งแรกเมื่อเธอมีอายุเพียง 11 ปี

ในการหารายได้เพิ่มเข้าครอบครัว แม่ของเธอได้ตัดสินใจเอาบ้านส่วนหนึ่งให้ครอบครัวเซรี่เนลลี่เช่า ลูกชายของครอบครัวนี้ชื่อ อเล็กซานโดร อายุ 18 ปี คิดร้ายต่อมารีอา หลายหนเขาได้ทำมิดีมิร้ายต่อเธอ แต่เขาทำไม่สำเร็จ เพราะเธอได้ต่อต้านเขาทุกครั้ง วันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังทำงานอยู่ในทุ่งนา เขาได้พบมารีอาอยู่ตัวคนเดียว จึงฉวยโอกาสนั้นข่มขืนเธอ เมื่อเธอไม่ยินยอม เขาก็โมโหฉุนเฉียว ในอารมณ์ชั่ววุบหนึ่งซึ่งขาดสติสัมปชัญญะ เขาได้ทิ่มแทงร่างกายอันบอบบางของเธอติดต่อกัน14 ครั้ง ด้วยมีดปลายแหลม

เมื่อแม่และพี่น้องกลับจากทำงาน เขาทั้งหลายได้เห็นมารีอานอนจมอยู่ในกองเลือดบนพื้นห้อง ก็รีบนำเธอส่งโรงพยาบาล เธอยอมจบชีวิตลงด้วยการเป็นมรณีสักขีเพราะต้องการรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ ก่อนเธอหมดลมหายใจ เธอได้ยกโทษให้อเล็กซานโดรพลางมอบชีวิตของเธอเองแทนฆาตกรด้วย และเธออยากเห็นเขาวันหนึ่งในเมืองสวรรค์ วันที่เธอเข้าสู่ชีวิตนิรันดรคือ 6 มิถุนายน 1902 โดยมีกางเขนและเหรียญพระแม่มารีย์ในมือของเธอ

อเล็กซานโดรถูกจับกุม ฟ้องศาลดำเนินคดี และถูกตัดสินจำคุก 30 ปี (ประเทศอิตาลีไม่มีกฏหมายประหารชีวิตทั้งในอดีตและปัจจุบัน) ในตอนแรกเขายังมีจิตใจแข็งกระด้าง 8 ปีต่อมา เขาเล่าว่ามารีอาได้ปรากฏตัวให้เขาเห็นในฝัน เธอสวมชุดสีขาวกำลังเก็บดอกลิลี่อยู่ในสวน เธอเดินมาใกล้เขาและยิ้มให้ พลางคะยั้นคะยอให้เขารับดอกลิลี่ในอ้อมแขนของเธอ ขณะที่เขารับดอกไม้จากเธอนั้น ดอกลิลี่แต่ละดอกได้เปลี่ยนเป็นแสงสีขาว แล้วมารีอาก็จากไป

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป ชีวิตของเขาได้เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เขาได้กลับใจ และได้เป็นพยานยืนยันถึงคุณธรรมวีรกรรมของเธอด้วย เมื่อเขาได้รับอิสระภาพแล้ว เขาได้ไปเยี่ยมคารวะและขอขมาแม่ของมารีอา และบวชเป็นภารดาในคณะกาปูชิน

เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 1950 พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ได้แต่งตั้งมารีอากอร์เรตตี้เป็นนักบุญ คุณแม่อัสซุนตา อายุได้ 84 ปี พร้อมกับลูกๆ อีก 4 คนได้มีโอกาสร่วมพิธีสถาปนาบุตรีน้อยของเธอเป็นนักบุญ รวมทั้งชายชราอายุ 66 ปี เขาคือ อเล็กซานโดร เซรี่เนลลี่ ผู้เป็นฆาตกร

ชีวิตของนักบุญมารีอา กอแร็ตตี เป็นการเตือนบรรดาหญิงสาวทั้งหลายในวันนี้ให้รู้จักรักษาป้องกันศักดิ์ศรีและความบริสุทธิ์ของตน ให้พ้นจากผู้ที่ต้องการจะทำลายย่ำยี นักบุญมารีอา กอแร็ตตี แม้ว่ายังเด็กอายุเพียง 12 ขวบและเพิ่งได้มีโอกาสรับศีลมหาสนิทเพียง 5 ครั้งเท่านั้นเอง พระบิดาเจ้าสวรรค์ได้ทรงพระกรุณาบันดาลให้พลังอำนาจแห่งความรักของเธอส่องแสงสุกใสในตัวเธอแล้ว

สำหรับชีวิตของอเล็กซานโดรนั้น เนื่องจากอิตาลีไม่มีกฏหมายประหารชีวิตนักโทษ เขาจึงมีโอกาสได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี มิฉะนั้นคงถูกประหารไปแล้วในขณะที่มีอายุ 18 ปี อาศัยนักบุญมารีอา กอร์ เรตตี้ เป็นองค์อุปถัมภ์ช่วยเราวิงวอนพระเป็นเจ้า องค์ความดีบริบูรณ์ โปรดให้มนุษยโลกยกเลิกกฎหมายประหารชีวิตนักโทษ และอาศัยแบบอย่างนักบุญมารีอา กอร์เรตตี้ซึ่งเป็นเพียงเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ ช่วยให้เรากล้าปฏิเสธกับคนที่มาชักชวนเราไปในทางที่ไม่ดีด้วยความกล้าหาญ " ไม่เอา นี่เป็นบาปนะ" ขอให้ความรักต่อพระเยซูคริสตเจ้าในตัวเรา ช่วยเราให้มีพลังที่จะเอาชนะความชั่ว ไม่ยอมแพ้แม้การประจญเล็กๆ น้อยๆ และให้เราได้เรียนรู้จักที่จะให้อภัยแก่ผู้ที่ทำไม่ดีกับเรา

คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ

1. ให้เรากล้าพูดกับคนที่มาชักชวนเราไปในทางที่ไม่ดีด้วยความกล้าหาญ “ไม่เอา นี่เป็นบาปนะ”

2. ขอให้ความรักต่อพระเยซูคริสตเจ้าในตัวเรา ช่วยเราให้มีพลังที่จะเอาชนะความชั่ว

3. ขอให้เราอย่าได้ยอมแพ้ต่อการประจญเล็กๆ น้อยๆ เลย เพื่อว่าเราจะ ได้สามารถเอาชนะการประจญที่ยิ่งใหญ่ๆ และหนักหนา ได้

4. ให้เราได้เรียนรู้จักที่จะให้อภัยแก่ผู้ที่ทำไม่ดีกับเรา