นักบุญ โปลีการ์ป
พระสังฆราชและมรณสักขี
ระลึกถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์

นักบุญ อีเรเน ในหนังสือ Adv. Haer.,III, 3 , 4 ได้เขียนพาดพิงถึงนักบุญ โปลีการ์ป (ประมาณปี 190) ไว้ดังนี้ “ท่านเป็นสานุศิษย์ของอัครธรรมทูต (น.ยอห์น) และได้รู้จักมักคุ้นกับหลายๆ คนที่ได้แลเห็นพระสวามีเจ้า และเป็นอัครธรรมทูตเองที่ได้แต่งตั้งท่านให้เป็นพระสังฆราชของศาสนจักรแห่งเมืองสมีร์นา ในภาคพื้นเอเชีย

ท่านได้ให้การต้อนรับนักบุญ อิกญาซีโอ แห่งอันทิโอ๊ค ที่เมืองของท่าน ขณะที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปสู่กรุงโรมเพื่อรับมงกุฎมรณสักขี นักบุญ อิกญาซีโอ เองรู้สึกทึ่งในความศักดิ์สิทธิ์ของท่านมาก และได้กล่าวคำสดุดีท่านว่า “เป็นนายชุมพาบาลที่ดี ที่มีความเชื่อไม่สั่นคลอน และเป็นนักต่อสู้ที่เข้มแข็งของพระคริสตเจ้า” ที่กล่าวว่าท่านเป็น “นักต่อสู้” ก็เนื่องจากว่า แม้ท่านจะมีอายุได้ 80 ปีแล้วก็ตาม ท่านก็ยังแสดงว่าตัวเองยังเข้มแข็งอยู่บนกองไฟ ณ สนามกีฬาของเมืองสมีร์นา ในสมัยจักรพรรดิมาร์คัสออริอุส ซึ่งเป็นยุคของการเบียดเบียนคริสตชน

เรื่องราวของการเป็นมรณสักขีของท่านได้รับการบอกเล่าจากพยานคนหนึ่ง ซึ่งได้เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยตาของเขาเอง เพราะท่านปฏิเสธไม่ยอมนมัสการพระเจ้าอื่นของพวกโรมัน ท่านได้จบชีวิตของท่านลงด้วยการขับร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า เช่นเดียวกับในพิธีบูชามิสซาที่ยัญบูชาก็คือตัวท่านเอง (ร่างกายของท่าน) ที่ได้รับการถวายเพื่อสรรเสริญเทิดพระเกียรติมงคลแด่พระบิดาเจ้า โดยอาศัยพระเยซูคริสตเจ้าสงฆ์ในเอกภาพร่วมกับพระจิตเจ้า

คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ให้เราถวายความทุกข์ยากลำบากประจำวันของเรา ให้เป็นเหมือนยัญบูชาที่สบพระทัยพระเจ้า
2. ให้เราวิงวอนขอต่อพระเจ้า ขอพระองค์ได้โปรดประทานนายชุมพาบาลที่มีใจร้อนรนและเข้มแข็งเยี่ยงวีรชน ดังเช่น นักบุญ โปลีการ์ป
3. ขอให้ผู้ที่ได้รับการเบียดเบียนเพราะพระคริสตเจ้า ได้มีความรู้สึกว่า พละกำลังทั้งสิ้นนั้นมาจากพระองค์
4. ขอให้กิจการแห่งความรักเมตตา จงเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าเช่นเดียวกับการเป็นมรณสักขีด้วยเถิด

ข้อมูลจากเวปไซด์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ