นักบุญปอนซีอานุส และนักบุญฮิปโปลีตุส
พระสันตะปาป และพระสงฆ์มรณสักขี
ระลึกถึงวันที่ 13 สิงหาคม

หนังสือ Depositio Martyrum ได้บันทึกไว้ว่าวันนี้เป็นวันที่ระลึกถึงการปลงศพของพระสันตะปาปาปอนซีอานุส และคุณพ่อฮิปโปลีตุส ซึ่งพระศาสนจักรถือว่าท่านทั้งสองเป็นมรณสักขีด้วย เพราะท่านทั้งสองได้จบชีวิตลงในถิ่นเนรเทศ โดยได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้ายในเหมืองแร่ที่เกาะซาร์ดีเนีย บรรดานักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่านักบุญฮิปโปลีตุส เป็นพระสงฆ์องค์หนึ่งของพระศาสนจักรกรุงโรม เป็นนักเขียนที่มีความสามารถมาก แต่ว่าหัวรุนแรง และได้กลายเป็นปฏิปักษ์กับพระสันตะปาปาคัลลิสตุส, อูรบานุส และปอนซีอานุส

ท่านทั้งสองคงจะได้ยอมสละหน้าที่ตำแหน่งของท่านเพื่อพระศาสนจักรกรุงโรมจะได้มีเอกภาพ นักบุญฮิปโปลีตุส คงจะได้รับการเคารพและให้เกียรติเป็นมรณสักขีพร้อมๆ ไปกับนักบุญปอนซีอานุส และพระศาสนจักรในทุกวันนี้ก็เคารพนับถือท่านทั้งสองเป็นนักบุญ  แม้ว่าในระหว่างที่ท่านทั้งสองมีชีวิตอยู่  ท่านจะได้เป็นศัตรูกันก็ตาม และนี่แหละที่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่อง “การคืนดีกันตามประสาคริสตชน”

อย่างไรก็ตาม บางคนบอกว่านักบุญ ฮิปโปลีตุส ที่เป็นปฏิปักษ์กับพระสันตะปาปานั้น ควรจะต้องเป็นพระสังฆราชของจารีตตะวันออก แต่ว่าพักอาศัยอยู่ที่กรุงโรม เป็นมรณสักขีด้วยหรือเปล่านั้น เรื่องนี้ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ 

เราเชื่อกันว่านักบุญฮิปโปลีตุส เป็นนักเขียนที่มีความสามารถมาก และคงเป็นท่านเองที่ได้เขียนหนังสือ “Traditio Apostolica”  ซึ่งเป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องจารีตพิธีกรรมของพระศาสนจักรที่กรุงโรม ที่เก่าแก่มากที่สุด และเรื่องราวของนักบุญฮิปโปลีตุส ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นคนใดแน่ อย่างไรก็ตามเราต้องยอมรับว่า นักบุญ ฮิปโปลีตุส เป็นผู้อธิบายพระคัมภีร์ที่ยิ่งใหญ่คนแรก ดังนั้นจึงเป็นการสมควรที่ท่านจะได้รับชื่อว่า “บิดาของการอธิบายพระคัมภีร์ของคริสตศาสนา”

คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ให้เราได้รู้จักให้อภัยอยู่เสมอๆ ถ้าหากว่าเราต้องการได้รับการอภัยจากพระเจ้า
2. ให้เราภาวนาเพื่อการกลับใจของผู้ที่ประกอบความชั่ว
3. ให้เรารู้จักรักแม้กระทั่งศัตรูของเรา และให้เราได้คืนดีกับผู้ที่ทำขัดเคืองใจเราด้วย
4. ขอให้ “สัญลักษณ์แห่งสันติสุข” ในบูชามิสซาอย่าเป็นเพียงแต่จารีตพิธีเท่านั้น แต่ควรจะต้องเป็นพฤติกรรมอันแสดงออกซึ่งความรักด้วย

ข้อมูลจากเวปไซด์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ