นักบุญลอเรนซ์ สังฆานุกรและมรณสักขี

ระลึกถึงวันที่ 10 สิงหาคม

ในเอกสารเก่าแก่ของปี 354 “Depositio Martyrum” ได้เอ่ยถึงอนุสงฆ์ของพระศาสนจักรที่กรุงโรมองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่สัตบุรุษ ศพของท่านได้รับการฝังเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 258 ที่ทุ่งอาแจร์ เวรานุส ( ซึ่งเวลานี้เป็นสุสานที่ใหญ่มากของกรุงโรม ชื่อ “กัมโป เวราโน” ) ซึ่งอยู่บนถนนตีบูร์ตีนา และปัจจุบันก็ได้มีวิหารที่ได้สร้างขึ้นถวายเป็นเกียรติแด่ท่าน ชื่อว่า“วิหารนักบุญ ลอเรนซ์”

ลอเรนส์เป็นชาวสเปน เดินทางมาที่กรุงโรมเพื่อรับใช้พระสันตะปาปานักบุญซิกต์ตุสที่ 2 และเป็นหนึ่งในจำนวนสังฆานุกร 7 องค์ของกรุงโรม ที่ถูกจับกุม ระหว่างการเบียดเบียนศาสนา ในสมัยจักรพรรดิเวเลอเรี่ยน หลังจากการออกกฤษฎีกาฉบับแรกต่อต้านคริสตชน

ประวัตินักบุญจากแหล่งหนึ่งบอกว่า พระสันตะปาปาซิกต์ตุสที่ 2 ถูกตัดพระเศียร เมื่อทหารจับกุมพระองค์ในที่หลบซ่อนใต้ดิน ส่วนประวัตินักบุญจากอีกแหล่งหนึ่งบอกว่า พระองค์ถูกพาไปสอบปากคำสองสามชั่วโมง และถูกนำกลับมาที่เดิมเพื่อประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม นักประพันธ์ชาวคริสต์ในสมัยแรก รวมทั้งนักบุญอัมโบรสและปรูเดนชัส ได้บันทึกว่า ลอเรนส์เศร้าโศกเสียใจอย่างท่วมท้นเมื่อทราบว่า องค์พระสันตะปาปาถูกลงโทษประหารชีวิต

นักบุญปรูเดนชัสเล่าว่า ลอเรนส์ได้ติดตามพระสันตะปาปาและทหารผู้จับกุมไปยังหลักประหาร และถามว่า: "ทำไมพระองค์ต้องถูกประหาร? และข้าพเจ้าเป็นสังฆานุกรคนเดียวที่ไม่ถูกประหาร" (สังฆานุกร 6 องค์ได้เป็นมรณสักขีพร้อมกับพระสันตะปาปาซิกต์ตุสที่ 2 ) พระประมุขได้ตรัสตอบว่า: "ลูกรัก พ่อมิได้จากลูก อีกสองสามวันลูกก็จะตามพ่อไป"

ลอเรนส์ ผู้ซึ่งเปี่ยมด้วยความยินดีที่จะได้ติดตามบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์เป็นมรณะสักขี จะต้องทำงานที่เหลืออยู่ชิ้นหนึ่งให้สำเร็จ ในฐานะสังฆานุกร เขาพิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติของพระศาสนจักร และมีหน้าที่บริจาคเงินแก่คนจน เขาได้รวบรวมคนจน เด็กกำพร้า และแม่ม่าย เท่าที่เขาสามารถหาพบ และบริจาคแก่เขาทั้งหลายทุกสิ่งที่เขาเป็นเจ้าของ เขาได้ขายทองคำและเงินบางส่วนของพระศาสนจักร และยกเงินให้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ

โคนิลัส เสคิวลาริส เจ้าหน้าที่โรมันตำแหน่งนายอำเภอ ผู้ซึ่งมั่นใจว่า พระศาสนจักรมีเงินทองทรัพย์สมบัติมากมาย ได้สั่งให้ลอเรนส์ส่งของมีค่าทั้งหมดคืนจักรพรรดิ เพื่อบำรุงรักษากำลังทหารของพระองค์ เขาได้พูดว่า: "ข้าพเจ้าเข้าใจว่าตามคำสั่งสอนของท่าน ท่านจะต้องคืนซีซ่าร์ ของของซีซ่าร์ พระเป็นเจ้าของท่านไม่ได้นำเงินตราเข้ามาในโลกพร้อมกับพระองค์ สิ่งที่พระองค์ได้นำเข้ามา คือ พระวาจา ดังนั้น จงให้เงินตรากับเรา และท่านเก็บพระวาจาไว้"

ลอเรนส์ขอเวลา 3 วันเพื่อรวบรวมเงินตราทั้งหมด ในระหว่างนั้น เขาได้ขายทรัพย์สินที่เหลือซึ่งเขาดูแลอยู่ และเรียกชุมนุมคนโรคเรื้อนเป็นพันๆ คนตาบอด คนป่วย คนหิวโหย แม่ม่าย เด็กกำพร้า และคนสูงอายุ แล้วเขาได้ยกฝูงชนนี้ให้นายอำเภอ และพูดจากระทบกระเทียบว่า: "พระศาสนาจักรร่ำรวยจริงๆ ร่ำรวยยิ่งกว่าจักรพรรดิของท่าน"

ด้วยความโมโหและความเคียดแค้น ในวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 258 นายอำเภอได้สั่งฆ่าลอเรนส์อย่างช้าๆ เขาได้เอาตะแกรงปิ้งเนื้อขนาดใหญ่ มารนไฟให้ร้อนจัดจนแดง มัดลอเรนส์ติดกับตะแกรง และปิ้งเขาจนถึงแก่ความตาย นักบุญอัมโบรสบอกเราว่า ไฟแห่งความรักต่อองค์พระเจ้าได้เผาไหม้ร่างกายของลอเรนส์ อย่างเจิดจ้า จนเขามีความอดทนต่อการทรมานอันทารุณโหดร้ายอย่างสงบ และในขณะทรมาน เขาได้บอกให้เพชฌฆาตพลิกตัวเขา เพราะเขาสุกเพียงข้างเดียว แล้วต่อมาเขาได้พูดว่า: "ท่านปิ้งข้าพเจ้านานพอสมควรแล้ว เชิญรับประทานได้เลย" ขณะกำลังหมดลมหายใจ ใบหน้าของเขาล้อมรอบไปด้วยแสงสว่างสวยงามยิ่งนัก เขาได้สิ้นใจ หลังจากสวดภาวนา: "ขอให้กรุงโรมกลับใจมานับถือพระเยซูคริสตเจ้า และความเชื่อคาทอลิกเผยแพร่ไปทั่วโลก"

นักบุญปรูเดนชัสได้ยืนยันว่า ความตายและแบบอย่างของลอเรนส์ได้นำกรุงโรมไปสู่การกลับใจโดยสิ้นเชิง และเป็นสัญลักษณ์แห่งการสิ้นสุดของลัทธิอเทวนิยม ไม่สงสัยเลยว่าความตายของเขาได้ดลใจให้เกิดความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ในกรุงโรม และแพร่หลายไปทั่วพระศาสนจักร ทั้งสังฆานุกรนักบุญลอเรนส์ และพระสันตะปาปานักบุญซิกต์ตุสที่ 2 มีชื่ออยู่ในบทภาวนามิสซาของพระศาสนจักร

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 แล้วที่ชื่อเสียงของท่านได้กลายเป็นเรื่องเล่าอันน่าอัศจรรย์ ลอเรนส์เป็นนักบุญที่มีฤทธานุภาพ และคนเลื่อมใสกันมากในสมัยกลาง เป็นองค์อุปถัมภ์ของสังฆานุกร เด็กนักเรียนชาย นักเรียน คนทำเกราะ คนกลั่นเหล้าหรือเบียร์ คนทำลูกอม คนครัว คนทำเครื่องตัด คนทำเครื่องแก้ว และคนซักรีดเสื้อผ้า

ตัวอย่างของนักบุญ ลอเรนซ์ เป็นเหมือนเมล็ดข้าวที่ตกลงบนพื้นดินและตายไป แต่ว่าได้ออกผลที่อุดมสมบูรณ์ โดยได้กระตุ้นให้เยาวชนเป็นจำนวนมากอุทิศตนรับใช้พระศาสนจักรและคนยากจนอย่างสุดชีวิต

คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ขอให้กิจการแห่งความรักช่วยเหลือผู้อื่นของพระศาสนจักรได้เป็นการ ปลดปล่อยที่แท้จริง ตามจิตตารมณ์คริสตชน
2. ขอให้บรรดาคริสตชนได้มีใจรักความยากจนและช่วยเหลือคนจนฉันท์พี่น้อง
3. ขอให้บูชามิสซาช่วยเหลือเราให้คิดถึงความจำเป็นและปัญหาต่างๆ ของพระศาสนจักร
4. ข้าแต่พระคริสตเจ้า ขอพระองค์ได้ทรงโปรดส่องสว่างช่วยเหลือ สนับสนุนให้กำลังใจและนำบรรดาพระสงฆ์และอนุสงฆ์

ข้อมูลจากเวปไซด์สังฆมณฑลจันทบุรี

และเวปไซด์คุณทรัพย์ ประกอบกิจ