นักบุญ คาธารีนา แห่ง ซีเอนา กับนักบุญ ฟรังซิส อัสซีซี เป็นองค์อุปถัมภ์ของประเทศอิตาลี ทั้งนี้เนื่องจากว่าเธอเป็นตัวแทนอย่างดีในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ของประเทศอิตาลี เธอเป็นผู้นำที่โดดเด่น มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มองการณ์ไกล มีความรับผิดชอบ ดีพร้อมทั้งในเรื่องเกี่ยวกับศาสนาและบ้านเมือง

คาธารีนา เบนินกาซา เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่เมืองซีเอนา ประเทศอิตาลี เธอเป็นบุตรคนสุดท้ายของบิดามารดาที่มีบุตรถึง 25 คน ได้สมัครเข้าเป็นนักบวชในขั้นที่ 3 ของคณะโดมีนีกัน ขณะที่มีอายุเพียง 16ปีเท่านั้น และที่บ้านของเธอ เธอได้เริ่มใช้ชีวิตที่เคร่งครัดและเข้มงวด โดยเฉพาะชีวิตภายใน ฌาน (ซึ่งเธอมีประสบการณ์ตั้งแต่ 6 ขวบจนตลอดชีวิตของเธอ) เรื่องนี้สามารถยืนยันได้จากงานเขียนของเธอบางตอนและ โดยที่มีเธอเป็นศูนย์กลางได้มีกลุ่มเพื่อนๆ รวมตัวกันเข้าเป็นครอบครัวน้อยๆ เจริญชีวิตภายในกันอย่างแท้จริง

เธอได้ทำการเรียกร้องให้มีสันติภาพอย่างไม่หยุดหย่อนในขณะที่กำลังมีเรื่องวุ่นวายต่างๆนานา เธอได้ขอร้องให้พระสันตะปาปาเสด็จกลับมาจากเมืองอาวีญองไปประทับอยู่ที่กรุงโรมตามเดิม เธอได้หว่านเชื้อของการปฏิรูปที่แท้จริงของพระศาสนจักรเอาไว้ ทั้งได้พยายามออกแรงทำงานเพื่อเอกภาพและเพื่อความรักเมตตาอยู่เสมอ

พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ได้ประกาศว่างานเขียนต่างๆ ของเธอเต็มไปด้วยบทสอนสำหรับพระศาสนจักรได้เป็นอย่างดี เป็นต้น เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของการเพ่งฌานและพระองค์ได้ประกาศแต่งตั้งเธอให้เป็น “นักปราชญ์ของพระศาสนจักร” นับว่าเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับการเคารพยกย่องให้ยืนเคียงข้างกับบรรดาอาจารย์คนอื่นๆ ของพระศาสนจักร (นักบุญสตรีอีกองค์หนึ่งที่ได้รับยกย่องให้เป็น “นักปราชญ์ของพระศาสนจักร” คือนักบุญ เทเรซา แห่ง อาวีลา )

ตัวอย่างของนักบุญ คาธารีนา ทำให้เราได้เข้าใจว่าใครก็ตามที่ต้องการทำการปฏิรูปในเรื่องใด ก็ขอให้การปฏิรูปนั้นเป็นผลของความรัก ไม่ใช่เป็นผลของการแข็งข้อหรือการอวดดี และขอให้การปฏิรูปทุกชนิดได้ช่วยทำให้พระศาสนจักรได้สามารถสร้างสรรอาณาจักรของพระเจ้าในโลกนี้ให้เป็นจริงเป็นจังมากยิ่งขึ้น


คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ขอให้เราได้เข้าใจว่าการปฏิรูปของพระศาสนจักรคือผลของความรัก
2. ขอให้แต่ละคนได้มีจิตสำนึกว่าตนต้องการ การชำระล้างให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ
3. ขอให้การขึ้นต่อพระสันตะปาปาเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ และความจริงจังของการปฏิรูปที่ต้องการจะทำ

ข้อมูลจากเวปไซดอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ